1.ภูเขาสี่ดรุณี (ซวงเฉียวโกว)

ประวัติ : ภูเขาสี่ดรุณี หรือ ซื่อกูเหนี่ยงซาน ตั้งอยู่ในเขตเสฉวน ห่างจากเฉิงตูประมาณ 220 กม. ประกอบด้วยยอดเขาสูง 4 ยอด เรียงตามตำนานเล่าว่าเป็นพี่น้องสาวสี่คน ยอดที่สูงที่สุด (น้องคนเล็ก) มีความสูงถึง 6,250 เมตร จากการเป็นเพียงเทือกเขาที่ถูกค้นพบโดยชาวท้องถิ่น ปัจจุบันได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอุทยานแห่งชาติและแหล่งศึกษาวิจัยทางธรณีวิทยาที่สำคัญ โดยเฉพาะในหุบเขาซวงเฉียวโกวที่เป็นส่วนหนึ่งของอุทยาน

จุดเด่น : ซวงเฉียวโกว (Two-Bridge Valley) เป็นหุบเขาที่เข้าถึงง่ายที่สุดในอุทยานภูเขาสี่ดรุณี มีจุดเด่นคือทิวทัศน์แบบเทือกเขาสูงคล้ายสวิตเซอร์แลนด์ ผู้คนนิยมมา ถ่ายภาพทิวทัศน์ ของทุ่งหญ้า แม่น้ำ ลำธาร และป่าสนที่โอบล้อมด้วยยอดเขาหิมะ การเดินป่าระยะสั้น หรือใช้รถบัสของอุทยานเพื่อชมทะเลสาบและเจดีย์ทิเบตที่มีฉากหลังเป็นภูเขาหิมะอันยิ่งใหญ่

2.อุทยานปี้เผิงโกว

ประวัติ : ปี้เผิงโกว เป็นอุทยานแห่งชาติระดับ 4A ในเขตปกครองตนเองชนชาติทิเบตเชียงอาป้าของมณฑลเสฉวน ลักษณะเป็นหุบเขาสูงใกล้กับแนวเทือกเขาหิมาลัย ทำให้มีภูมิประเทศที่หลากหลายและอุดมสมบูรณ์มาก จุดนี้ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวและรัฐบาลจีนในการอนุรักษ์ธรรมชาติอย่างเข้มงวด ทำให้ระบบนิเวศน์ยังคงความบริสุทธิ์และสวยงามตลอดทั้งปี

จุดเด่น : คือความสวยงามของ ภูเขาหิมะตลอดปี และ สีสันของใบไม้เปลี่ยนสี ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ผู้คนเดินทางมาเพื่อ แช่น้ำพุร้อน ที่มีชื่อเสียง เดินชมทะเลสาบน้ำแข็ง น้ำตก และป่าสนที่ปกคลุมด้วยหิมะในฤดูหนาว กิจกรรมหลักคือการนั่งรถของอุทยานขึ้นไปยังจุดสูงๆ เพื่อ สัมผัสทัศนียภาพแบบยุโรป และเดินเล่นในบรรยากาศเย็นสบาย

3. อุทยานแห่งชาติจิ่วจ้ายโกว

ประวัติ : จิ่วจ้ายโกว แปลว่า "ธารน้ำเก้าหมู่บ้าน" มาจากหมู่บ้านชาวทิเบต 9 แห่งที่ตั้งอยู่บริเวณลำธารแห่งนี้ เป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวทิเบตเคารพในฐานะขุนเขาและธารน้ำแห่งเทพ ในปี ค.ศ. 1992 จิ่วจ้ายโกวได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลกทางธรรมชาติ โดย UNESCO โดดเด่นด้วยภูมิประเทศแบบคาสต์ (Karst) และมรดกทางชีวภาพอันหายาก

จุดเด่น : จุดเด่นคือ ทะเลสาบสีสันสดใสหลายระดับชั้น ที่เกิดจากตะกอนแคลเซียมคาร์บอเนต และ น้ำตกที่ลดหลั่นเป็นชั้นๆ ที่มีชื่อเสียง เช่น ทะเลสาบห้าสี ผู้คนมาที่นี่เพื่อ ถ่ายภาพทิวทัศน์ที่สวยงามราวสวรรค์ และ สัมผัสวัฒนธรรมทิเบต ในหมู่บ้านที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ จิ่วจ้ายโกวขึ้นชื่อว่าสวยงามในทุกฤดู โดยเฉพาะช่วงใบไม้เปลี่ยนสี

4. เมืองชวนจู่ซื่อ

ประวัติ : ชวนจู่ซื่อ เป็นเมืองโบราณที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์ ตั้งอยู่ในเขตปกครองตนเองของชนชาติทิเบตและเชียง เป็น จุดยุทธศาสตร์ และทางผ่านสำคัญบนเส้นทางโบราณไปสู่ทิเบต และเป็นประตูสู่แหล่งท่องเที่ยวใหญ่อย่างจิ่วจ้ายโกวและหวงหลง ทำให้เมืองนี้เป็นจุดแวะพักหลักมาตั้งแต่อดีต สถาปัตยกรรมส่วนใหญ่จึงได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมทิเบตอย่างชัดเจน

จุดเด่น : จุดเด่นคือทำเลที่ตั้งที่ล้อมรอบด้วยธรรมชาติอันสวยงาม มีลำธารพาดผ่าน และ สถาปัตยกรรมแบบทิเบต ที่สวยงาม ผู้คนมักแวะพักที่นี่ก่อนหรือหลังเที่ยวจิ่วจ้ายโกว/หวงหลง กิจกรรมหลักคือ เดินชมเมืองเก่า แหล่งชุมชนและร้านค้าที่ขายสินค้าพื้นเมืองของทิเบตและเชียง และ ถ่ายภาพบรรยากาศ ของอาคารบ้านเรือนที่ผสมผสานกับทิวทัศน์ธรรมชาติโดยรอบ

5. เมืองตูเจียงเยี่ยน

ประวัติ : ตูเจียงเยี่ยน เป็นที่ตั้งของระบบชลประทานโบราณที่มีชื่อเดียวกัน สร้างขึ้นเมื่อประมาณ 2,200 ปีก่อนในสมัยรัฐฉิน โดยข้าหลวงหลี่ปิงและบุตรชาย เพื่อควบคุมน้ำท่วมและผันน้ำจากแม่น้ำหมินเจียงไปยังพื้นที่เพาะปลูกในเฉิงตู โครงการชลประทานนี้มีความมหัศจรรย์ทางวิศวกรรมที่ยังคงใช้งานได้ดีจนถึงปัจจุบัน และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลกทางวัฒนธรรม โดย UNESCO

จุดเด่น : จุดเด่นคือ ระบบชลประทานโบราณ ที่แบ่งสายน้ำอย่างชาญฉลาดและยังคงทำงานอยู่ ผู้คนนิยมมา ชมความยิ่งใหญ่ของเขื่อนน้ำโบราณ และศึกษาภูมิปัญญาของชาวจีนในอดีต รวมถึง ถ่ายภาพสะพานแขวนอันเก่าแก่ เหนือแม่น้ำ และ เดินชมเมืองเก่ากวนเสี้ยน ซึ่งอยู่ใกล้กัน เพื่อสัมผัสประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมอันยาวนานหลายร้อยปี

6. เมืองเม่าเสี้ยน

ประวัติ : เม่าเสี้ยน ตั้งอยู่ในมณฑลเสฉวน เป็นเมืองเล็กๆ ที่มีประวัติศาสตร์ผูกพันกับ ชนเผ่าเชียง (Qiang) ซึ่งเป็นหนึ่งในชนกลุ่มน้อยของจีนมาอย่างยาวนาน เมืองนี้เป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมเชียง โดยมีอาคารบ้านเรือนและวิถีชีวิตที่เป็นเอกลักษณ์ดั้งเดิม การเกษตรกรรมและการดำรงชีวิตท่ามกลางหุบเขาและไร่อันกว้างใหญ่เป็นเสน่ห์ที่โดดเด่นของที่นี่

จุดเด่น : จุดเด่นคือ วัฒนธรรมของชนเผ่าเชียง ที่ยังคงสืบทอดมาอย่างชัดเจน ผู้คนมักเดินทางมาเพื่อ สัมผัสวิถีชีวิตของชาวเชียง และ ชมสถาปัตยกรรมโบราณ ที่เป็นเอกลักษณ์ของชนเผ่า กิจกรรมที่น่าสนใจคือการ เยี่ยมชมหมู่บ้านเชียง เพื่อเรียนรู้เรื่องราวประวัติศาสตร์และชมการแต่งกาย การแสดงพื้นบ้าน และงานหัตถกรรมท้องถิ่นของชนกลุ่มน้อยในมณฑลเสฉวน

7. ถนนโบราณซอยกว้างซอยแคบ (ควนไจ่เซี่ยงจื่อ)

ประวัติ : ควนไจ่เซี่ยงจื่อ ประกอบด้วย 3 ซอยหลัก คือ ซอยกว้าง (ควนไจ่), ซอยแคบ (ไจ่ไจ่), และซอยเวลล์ (จิ่งไจ่) เดิมเป็นย่านที่พักอาศัยของนายทหารใน สมัยราชวงศ์ชิง เมื่อกว่า 300 ปีก่อน โดยซอยกว้างเป็นที่อยู่ของผู้มีฐานะ ส่วนซอยแคบเป็นที่อยู่ของชนชั้นกลาง ปัจจุบันได้รับการบูรณะและพัฒนาให้กลายเป็นถนนคนเดินที่ผสมผสานเสน่ห์ของสถาปัตยกรรมโบราณเข้ากับความทันสมัย

จุดเด่น : จุดเด่นคือ สถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมสมัยราชวงศ์ชิง ที่ยังคงความสวยงาม ผู้คนมาเพื่อ เดินเล่น ถ่ายรูป และ สัมผัสบรรยากาศย้อนยุค ผสมผสานกับร้านค้าทันสมัย มีร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหารพื้นเมืองเสฉวน ร้านชา และคาเฟ่ ผู้คนยังนิยมมา ลองชิมขนมและอาหารท้องถิ่น เช่น ชาใส่หู และดูการแสดงศิลปะพื้นบ้านที่โรงละครขนาดเล็ก

8. ถนนไท่กู่หลี่

ประวัติ : ไท่กู่หลี่ เป็นแหล่งช้อปปิ้งสมัยใหม่ที่สร้างขึ้นบนพื้นที่ที่เคยเป็น วัดต้าสือ ซึ่งเป็นวัดในนิกายมหายานที่มีประวัติยาวนานกว่า 1,600 ปี และเป็นวัดที่พระถังซำจั๋งเคยจำพรรษาอยู่ช่วงหนึ่ง การออกแบบจึงโดดเด่นด้วยการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมอาคารสมัยใหม่เข้ากับอาคารโบราณของวัดอย่างลงตัว และตั้งอยู่ติดกับถนนชุนซีลู่

จุดเด่น : จุดเด่นคือ การผสมผสานระหว่างวัดโบราณกับห้างสรรพสินค้าลักซ์ชัวรี ผู้คนมาเพื่อ ช้อปปิ้งแบรนด์ดังระดับโลก และร้านบูติกสุดชิค กิจกรรมยอดนิยมคือ การถ่ายภาพแฟชั่น กับสถาปัตยกรรมที่ทันสมัยและเป็นเอกลักษณ์ โดยมีวัดโบราณเป็นฉากหลัง รวมถึงการ ถ่ายภาพกับแพนด้าปีนตึก ที่เป็นสัญลักษณ์ของย่านนี้ และแวะ ไหว้พระขอพรที่วัดต้าสือ

9.

ประวัติ :

จุดเด่น :

ภูเขาสี่ดรุณี จิ่วจ้ายโกว 6วัน 5คืน

เมืองตูเจียงเยี่ยน ภูเขาสี่ดรุณีซวงเฉียวโกว อุทยานปี้ เผิงโกว อุทยานแห่งชาติจิ่วจ้ายโกว POP MART